เมื่อปลาหมดไปจากบ่อแล้ว
English version please see below
สวัสดีครับทุกๆท่าน ถ้าจะทักว่ายังสบายดีไหมคงจะได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะปีนี้เป็นปีที่หนักหน่วงมาก โดยภาพรวมการท่องเที่ยวของปีนี้ “ต้นปี 2563 ในเดือนมกราคม” ถือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุดใน 3 ไตรมาส โดยมีจำนวนกว่า 1.03 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 728,372 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 307,723 คน ซึ่งก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนถึง 10,438.24 ล้านบาท
ทว่าแนวโน้มและทิศทางค่อยๆ ดิ่งลงมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในเดือนเมษายน พบว่ามีนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงต่ำสุด เหลือจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 3,523 คน แบ่งสัดส่วนเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 2,707 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 816 คน และสร้างรายได้ประมาณ 41.14 ล้านบาท เท่านั้น
ต่อมาสถานการณ์ท่องเที่ยวเชียงใหม่ค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มิถุนายน ถึงกรกฎาคม แม้จะค่อยๆ แผ่วลงมาบ้างเล็กน้อยในช่วงกลางและปลายไตรมาส 3 แต่ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เชียงใหม่นั้นก็มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนถึง 331,013 คน ซึ่งส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นร้อยละ 98.7” ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว (CTRD) สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่พักของผมจากที่เคยรับแขกต่างชาติ 99% ก็ต้องปรับให้เหมาะกับตลาดภายในประเทศ ซึ่งตลาดไทยนั้นมีศักยภาพที่ไม่แพ้กันเลยและมีข้อดีหลายอย่าง
แขกคนไทยมีความชำนาญเส้นทางมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น บ้านผมที่แม้จะอยู่ในซอยลึกที่แขกต่างชาติมักจะหาไม่เจอ แต่คนไทยส่วนใหญ่จะหาเจอเพราะชินกับการขับรถเข้าซอยเล็กๆ
มีความสนใจวัฒนธรรมพื้นถิ่น เช่น การสอบถามเรื่องงานโครงสร้างอาคารอิฐและไม้, ชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ, บ่อน้ำภายในบ้านของภาคเหนือ และบางคนมองหาแรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านของตัวเองอีกด้วย
ยอมรับความไม่คุ้นเคยและทดลองอยู่ อาจจะเพราะเวลาในการเข้าการพักสั้นเพียง 1 คืน ทำให้แม้ที่พักที่ดูแตกต่างจากที่เขาคิดไว้ ผมมีประสบการณ์ 2-3 ครั้ง ที่คนจองไม่ได้บอกเพื่อนที่มาพักด้วยว่าที่พักหน้าตาเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมจะยอมพักตามคนจอง
มองหาที่พักที่เป็นส่วนตัว เช่น บ้านทั้งหลัง หรือ ที่พักแนวลักซ์ชัวรีแคมปิ้ง( เต็นท์ติดแอร์)
“คนทั้งโลกไม่ใช้ลูกค้าของเรา เราทำได้แค่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าของเราด้วยศักยภาพที่เรามี”
ผมค่อนข้างจะเห็นด้วยกับประโยคด้านบน คำถามสำคัญสำหรับเพื่อนๆ เจ้าของที่พัก คือ เราได้ลองสร้างคุณค่าของที่พักเราขึ้นมาจากสิ่งที่เรามีแล้วหรือยัง...เรามองครบทุกมุมแล้วหรือไม่? เราได้สื่อสารสิ่งที่เรามีให้แขกในอนาคตรับทราบหรือยัง?
ภาษา น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด ในเว็บเพจและหน้าบน OTA ของเรา เราใช้ภาษาอะไร? เดิมเราอาจเน้นแต่เฉพาะภาษาอังกฤษ...แล้วเราต้องการรับแขกคนไทยที่อ่านภาษาอังกฤษได้เท่านั้นหรือเปล่า? ตัวผมเองได้เริ่มต้นการปรับที่พัก ด้วยทำการปรับเว็บเพจส่วนตัว เฟสบุ๊คและหน้าบน OTA ทั้งหมดให้เป็น 2 ภาษา
การลดรายจ่ายคงที่ ตรงนี้ผมคิดว่าหลายท่านนะจะได้เริ่มไปแล้ว เช่น ค่าเช่าสถานที่หรือค่าอินเตอร์เน็ตบ้าน ซึ่งมีผู้ให้บริการหลายเจ้ามีโปรโมชั่นลด 50% เพื่อช่วยเหลือนะครับ
ชื่อสถานที่ เป็นสิ่งที่บางท่านทำแต่แรก แต่บางคนก็ไม่ได้คิดว่าจำเป็น ผมอยากจะชวนให้ใช้การตั้งชื่อที่พักของเรา ช่วยลบข้อด้อยของสถานที่ เช่น ที่พักของผมชื่อ Hidden Space ก็ตามชื่อครับ...เพราะที่พักซ่อนอยู่ในซอยลึกหาได้ค่อนข้างยาก แต่ชื่อของที่พักช่วยเปลี่ยนข้อด้อยนั้นให้กลายเป็นความสนุก
หายังไงก็เจอ แต่ก่อนเราสามารถลงที่พักของเราเพียงแค่ใน OTA โดยเฉพาะกับ Airbnb ที่มีระบบรีวิวที่แข็งแรง แต่กับแขกคนไทย การที่ที่พักมีชื่อและมีการสร้างเว็บไซท์ส่วนตัว เฟสบุ๊กเพจ ไอจี และโลเคชั่นในกูเกิ้ลแมพ อาจจะไม่ได้ให้ผลโดยตรงในแง่ยอดการจอง แต่ช่วยสร้างการมีตัวตนของที่พักของเราบนโลกอินเตอร์เน็ต เพราะเวลาที่แขกกำลังสนใจจะจอง บางท่านจะไม่ได้จองในทันทีโดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่กำลังจะเริ่มเที่ยวด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เขาจะทำอย่างต่อไป คือการนำชื่อของที่พักไปเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความมั่นใจขึ้นในการจอง ...เพราะเขาก็กลัวว่ารูปที่สวยๆ มาจริงแล้วอาจจะไม่เหมือนในรูป
เมื่อปลาหมดไปจากบ่อแล้ว เราคงต้องยอมรับก่อนว่า Airbnb นั้นคนไทยใช้น้อยมากสำหรับการจองที่พักในประเทศ หากใครที่ลงที่พักแต่เฉพาะบน Airbnb ผมคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องสร้างเพจ FB หรือลงเพิ่มใน OTA อื่นๆที่คนไทยนิยม เช่น Agoda Home สำหรับที่พักของผมจากจำนวนแขกคนไทยที่จอง 50% เป็นการจองตรงผ่านการโทรถามและFB
สิ่งอำนวยความสะดวก เราควรกลับมาสำรวจสิ่งที่เรามีและแขกต้องการจะใช้ สิ่งแรกที่ผมรับรู้เลย คือ แขกคนไทยไม่ได้มองหาโลเคชั่นที่ดีที่สุด แต่เขาขอให้มีที่จอดรถ ซึ่งผมได้ทำการขยายที่จอดรถเดิมให้กว้างมากขึ้นสะดวกขึ้น เรื่องของแสงไฟก็สำคัญ โดยเฉพาะโฮมสเตย์ที่ดัดแปลงจากบ้านไม้เก่า แขกอาจจะรู้สึกกลัว การเพิ้มแสงไฟก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่ง ที่พักของผมยังคงไม่มีแอร์และเป็นห้องพัดลม...ทุกครั้งที่แขกสนใจจะจอง ผมจะเน้นตรงนี้เพื่อให้เขาทราบก่อนการตัดสินใจจอง หรือในกรณีที่ที่พักของเรามีสระว่ายน้ำ การเพิ่มถาดอาหารเช้าลอยน้ำก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะแขกจะได้ภาพสวยๆ ไปโพสด้วย
อาหารเช้า ผมคิดว่าอย่างน้อยควรจะเพิ่มอะไรที่ทานได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง บางครั้งการดูกระแสที่คนชอบก็ช่วยได้
การเข้าร่วมกับแคมเปญภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน สำหรับปีนี้สิ่งที่ผมตัดสินใจได้ดีที่สุด คือ การดำเนินการจนได้ใบรับรองสถานที่พักที่มิใช้โรงแรม (โฮมสเตย์) เนื่องจากสามารถทำให้เราเข้าร่วมโครงการฯได้ โดยโครงการนี้ในตอนแรกเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่หลังจากที่ทางภาครัฐขยายเวลาครอบคลุมช่วงปีใหม่ มีการใช้เพิ่มจนเต็ม ใครที่สนใจวิธีการดำเนินการเพื่อแจ้งขอใบรับรองฯให้ดูที่ลิงค์นี้ครับ
ราคา การปรับราคาเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ไม่อาจมีคำตอบตายตัว แต่ผมอยากชวนให้ลองสำรวจราคา ว่า ราคา ณ ปัจจุบันเหมาะกับสภาพตลาดหรือไม่ เนื่องจากที่พักของผมมีเพียงแค่ 3 ห้อง ผมจะตั้งราคาที่ทำให้ผู้สนใจบางท่านซึ่งมองเราเป็นตัวเลือกรู้สึกราคาสูงไปหน่อย แต่กับคนที่ชอบจริงๆจะมองว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า
การเปลี่ยนจากที่พักค้างคืนไปเป็นธุรกิจรูปแบบอื่นๆ หากสถานที่ของเราเหมาะกับการถ่ายรูป เราอาจจะเพิ่มให้เช่าช่วงกลางวันสำหรับการถ่ายรูปโดยเฉพาะแทน หรือ เปลี่ยนบางส่วนของที่พักเป็นธุรกิจแบบอื่นในวันที่ไม่ได้มีแขกมาพัก เช่น ที่พักของเพื่อนผมคนหนึ่งแปลงห้องส่วนกลางเป็นบาร์ค็อกเทล สำหรับไอเดียเพิ่มเติมลองดูได้บทความของ the cound ที่ลิงค์นี้
ในช่วงปลายปีนี้ ผมขออวยพรเพื่อนๆโฮสทุกๆท่านที่ยังอดทน ให้ยังคงประคับประคองตัวเองไปได้ ดูแลรักษาสูขภาพด้วยนะครับ happy...hosting ครับ
What doesn’t kill you makes you stronger
สิ่งใดที่ฆ่าเราไม่ตาย ย้อมทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
by Friedrich Nietzsche
Hosting in 2020: Live and Learn
Hi everyone, I hope you doing well and stay healthy. I’m a Thai host both home and experiences. I am in a country that relies the most on travel and international tourism. So, this post is my experience of what I do when the market turned upside down. Now, domestic tourism is the only focus for every country. In Thailand, more than 90% of guests who booked via Airbnb is an international guest especially more than 50% is from China.
In mid-January 2020, I started to notice a huge number of my Chinese guest messages for canceled their trip and all reservations from all country guests had been canceled in March as the country’s lockdown. Until now, many local-hosts that I know had already closed their listing and moved to do the other jobs. The tourism starts to recover in September and 98.7% of travelers who visit Chiang Mai is Thai people.
*Chiang Mai is the largest city in Northern Thailand. It is 700 km (435 mi) and takes around 9-10 hours to drive from Bangkok.
At first, my house is only listed on Airbnb and the reservation is still at 0 but luckily for the experiences in-person, I got a booking for a couple of time after re-open booking (All guests that I met was an ex-pat). My goal is to transform my house to attract the domestic market but please remember that “Not everyone will be your customers, but we can satisfy our customers with the potential that we have." and even the market is totally changed, we should maximize our potential.
Language: Before COVID-19, you may only list in English but now you should reconsider using your local languages and it should not only a translation, but the description can be different depending on your target group. Ex. When I mention the garden, in English is for guest to relax to nature sound but for Thai is more about the space that they can take the picture.
Amenities: The need for the domestic market may be a bit different like they will need a car park but less use the laundry and kitchen. Make sure that you highlight it or if you need to improve, it may be good to do it.
Name your place: I think naming your place is one of the things you can do to benefit your space without any cost. My accommodation is called Hidden Space and because the accommodation is hidden in a deep alley but because the name helps turn disadvantage to be a strength. The guest can find your place via search engine and maps if you name your place.
Your own page: FB, IG or you own Website will become more important, it may not create direct result in terms of bookings but when guests interest to booking, some guests will search for more information to ensure more confidence. Social media will helps build the existence of the property on the internet. BLOG on your own website also helpful, believe it or not, I have a huge number of people visit my blog to see the article that helps them plan a trip. Not everyone who visits my website will book my place but just 1% of 37000 readers are worthy.
Get Found 100%: Reconsider to pin your place on Google map and use Google My business to manage reviews and post new photos, as it is free and help guest find the place.
OTA or Direct booking: Before this year, I only use Airbnb as it has a strong review system, and this is the thing I do not want to change but you must try what OTA the local use. From my own experience this year, 50% of bookings come from direct booking via my FB page.
Legal your listing: This is a good time. During the lockdown, I work on my Homestay license that will make sure that my place legal. The government has launched the campaign package that offers discounted hotel accommodation, airfares, and attractions, subsidized by the Thai government to restore traveler confidence and entice guests back to the domestic tourism destinations. Luckily, I can join this campaign because I got the homestay license just in time. It helps me a lot to get a new booking.
Discover new idea: Someplace change from accommodation to be café, restaurants, or cocktail bar. Some hotels let the people rent a room in the daytime for 5-6 hrs. for a party or photoshoot in the swimming pool.
The Result: Before COVID-19, my Thai guest was only 1% of the total (65% Chinese, 15% Korean, and 10% U.S.). Now, I can attract more Thai guests. It is increased to 15% of my total guests (Year to Date-YTD). There are many good points that I found from domestic travelers;
Vacation rentals like an entire home (up to 3-4 bedrooms) become popular as it is more secure, private, and a perfect match for a group of friends and family.
Domestic guests especially the young generation, want to experience more local culture when they travel.
As my house was built by a local Northern craftsman, there are some interior designers and owners of construction companies came to stay and learn more about architectural structures. Including, another host who visits to learn more about what they can improve.
Agoda's research shows that domestic guests willing to pay more on the accommodation budget as they do not have an opportunity to travel abroad. If your place is photogenic, that is also a selling point.
Comentários