เพียง 7 นาทีจากที่พักของเรา มีมุมถ่ายรูปที่ดูสวยและลึกลับอย่างน่าประหลาดใจ
A Stunning Beautiful temple, 7 mins Walk from Hidden Space ( English description below )
วัดอุโมงค์เป็นอีกหนึ่งสถานที่เราไม่อยากให้คุณพลาดแวะถ่ายรูป โดยเฉพาะหน้าฝนที่ต้นมอสจะเปลี่ยนสถานที่ในวัดเป็นสีเขียวสด ยังเป็นโบราณสถานที่บ่งบอกความเจริญรุ่งเรื่องของศิลปะล้านนา ในสมัยราชวงศ์มังราย นับตั้งแต่เจดีย์ประธานทรงระฆังภายในวัด ก็จัดเป็นทรงระฆังในระยะต้นศิลปะล้านนา โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2478
ในสมัยพญากือนา พ.ศ. 1898-1928 ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดบริเวณเชิงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นเขตอรัญญิกของเมือง หนึ่งในนั้น คือ วัดอุโมงค์ หรือ วัดเวฬุกัฏฐาราม (วัดไผ่ 11 กอ) ตำนานเล่าว่า วัดนี้เป็นที่จำพรรษาของพระภิกษุ ชื่อ มหาเถรจันทร์
ในปี พ.ศ. 2490 คณะพุทธนิคมนำโดย เจ้าชื่น สิโรรส ได้นิมนต์ท่านพุทธทาส มาแสดงธรรมเป็นเวลา 15 วัน ต่อมาท่านปัญญา นันทะภิกขุ มาประจำที่วัดอุโมงค์และได้แสดงธรรมทุกวันอาทิตย์และทุกวันพระ ก่อกระแสให้มีการสร้างพุทธสถานขึ้น นับตั้งแต่ปี 2494 ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2512 วัดอุโมงค์ได้เปลี่ยนฐานะจากวัดร้าง เป็นวัดที่มีพระสงค์จำภรรษา ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 15/2512 และยังคงสถานที่สำหรับผู้สนใจปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิและเที่ยวชมดูจิตรกรรมในเพดานโค้งภายในอุโมงค์
หากใครไม่เคยเห็นไก่บินได้ ให้มาที่วัดอุโมงค์ช่วงเย็นๆเราจะได้เห็นเหล่าไก่บินทะยานขึ้นต้นไม้และเดินอย่างคล่องแคล่วราวกับลิง!
The Place of Buddhist Meditation
Wat Umong temple was specially built by imitation nature, a tunnel that resembled a cave. Generally had a naturally peaceful place designed for both walking and sitting meditation.
The temple was built in 1297 by King Manglai of the Lanna dynasty. Wat Umong is unique in that the resident monks live in a very natural setting, and occasionally feed the deer that live in the area. It also is possible to practice meditation at Wat Umong and to learn from the monks
ข้อมูลจาก หนังสือ แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สองข้างทางถนนสุเทพ โดย มูลนิธีโรงพยา่บาลสวนดอกและ Architecture of Lanna by Nithi Sthapitanonda and WiKi
All pictures from Film-class activity #Snapchiangmai check here: Airbnb experiences
